เสียงนกหวีดเป่าเริ่มต้นครึ่งเวลาหลัง
จนมาถึงการจู่โจมในนาทีที่ 50 กองกลางตัวคุมเกมทีมชาติเยอรมนีอย่าง Joshua Kimmich จ่ายบอลให้กับ Jonas Hofmann ยิงด้วยเท้าขวา
บอลพุ่งเสียบตาข่ายเสาแรกไปอย่างสวยงาม พาทีมชาติเยอรมนี ออกนำไปก่อน 1-0
หลังจากนั้น ทีมชาติอังกฤษก็พยายามที่จะโหมบุกใส่อย่างต่อเนื่อง เพื่อทวงประตูคืนมาก่อน
โดยอังกฤษมีถึง 2 จังหวะ ที่เกือบจะได้ประตูคืน จังหวะในทีที่ 77 จาก Harry
Kane และในนาทีที่ 81 จาก Raheem Sterling ทั้ง
2 จังหวะถูกปฏิเสธโดย Manuel Neuer ผู้รักษาประตูจอมหนึบของทีมชาติเยอรมนีทั้ง
2 ลูก จนมาถึงในนาทีที่ 88 ศูนย์หน้าทีมชาติอังกฤษอย่าง Harry Kane หลุดผ่านกองหลังเข้าไปในกรอบเขตโทษ แต่ถูก Nico Schlotterbeck กองหลังทีมชาติเยอรมนี สกัดล้มลงในกรอบเขตโทษ
ซึ่งผู้ตัดสินได้ใช้เทคโนโลยี VAR เพื่อตัดสินจุดโทษในครั้งนี้
พร้อมทั้งในทีมชาติอังกฤษได้จุดโทษในครั้งนี้ไป และ Harry Kane ลุกขึ้นมาสังหารจุดโทษเข้าไปอย่างสวยงาม จบเกมการแข่งขัน ทีมชาติอังกฤษ
และ ทีมชาติเยอรมนี เสมอกันไปอย่างสนุก 1-1
แกเร็ธ เซาธ์เกต กุนซือทีมชาติอังกฤษ ออกตัวยกย่อง Harry Kane ที่สามารถสังหารจุดโทษอย่างเแยบยล ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก โดยกล่าวว่า
“ช่วงเวลานั้นมีความกดดันอย่างมาก แต่เคนสามารถดูจังหวะของเขาได้ครบถ้วน
รูปแบบที่เขาใช้สร้างพื้นที่การโจมตี วิธีที่เขาใช้บุกเข้าใส่เพื่อกดดันเยอรมนี
วิธีและรูปแบบที่เขาเล่นในวันนี้ ทั้งหมดนั้นมันยอดเยี่ยมมาก” แกเร็ธ เซาธ์เกต
กล่าวทิ้งท้ายไว้
เรื่องราวกีฬา ฟุตบอล ข่าวคราววงการฟุตบอล พร้อมกับมอบความสนุกและความตื่นเต้นให้กับคุณ ในขณะเดียวกันก็ช่วยให้คุณคว้ารางวัลแจ็กพอตที่ใหญ่ที่สุด แทงบอลauto